Breaking News

วิธีเล่นเกมส์ วิธีเล่นเกมส์ วิธีเล่นเกมส์ เกมส์อัพเดท เกมส์อัพเดท

ผลประโยชน์เด็กตัวเล็กๆ (ไม่) ถ้วนหน้า

ตั้งแต่กำเนิดจนกระทั่งตายควรมีผลประโยชน์เบื้องต้นถ้วนหน้าแก่ทุกคน เดี๋ยวนี้พวกเราได้เด็กเรียนฟรี บัตรทองคำรักษาสุขภาพ คนไม่สมประกอบ คนวัยแก่ นอกจากอยู่กรุ๊ปดียวเป็น เด็ก 0-6 ปี ซึ่งเป็นเด็กที่ทุกคนเห็นด้วยว่าเป็นหัวเลี้ยวตัวต่อที่สำคัญของชีวิต อีกทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ คุณภาพชีวิต แต่ว่าเพราะเหตุใดกลับเลือกว่า จำเป็นต้องให้เด็กตัวเล็กๆที่เป็นคนยากจนแค่นั้น” สุนี ไชยรส ผู้แทนคณะทำงานและก็โครงข่ายเกื้อหนุนแนวทางผลประโยชน์เงินสนับสนุนเด็กตัวเล็กๆแบบถ้วนหน้า ถาม

ในตอน 10 ปีที่ล่วงเลยไป ระบบผลประโยชน์ของไทยได้ขยายครอบคลุมไปเกือบจะครบทุกกรุ๊ปราษฎร และไม่มีการแยกว่ามั่งมีหรือจนถึง ละเว้นกรุ๊ปเด็กตัวเล็กๆอายุ 0-6 ปีที่ราวกับ ถูกทิ้งเอาไว้ระหว่างทางโดยที่ผ่านมา เด็กตัวเล็กๆที่จะเข้าถึงผลประโยชน์ต่างๆได้ ควรจะเป็นลูกของผู้เอาประกันตนในระบบประกันสังคมเพียงแค่นั้น จนกระทั่งปี พุทธศักราช 2558 รัฐบาลก็เลยประกาศให้มี ผลประโยชน์เงินสมทบเด็กตัวเล็กๆโดยมอบเงินอุดหนุนทารกถึง 6 ปี เดือนละ 600 บาทต่อคน เพื่อช่วยเหลือรายจ่ายในครอบครัว แม้กระนั้น แนวทางดังที่กล่าวมาแล้วกลับมิได้ชำระเงินให้เด็กตัวเล็กๆทุกคนอย่างถ้วนหน้า แต่ว่าเป็นการจัดให้เด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ผู้มีสิทธิ์อุปถัมภ์ค้ำชู มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี รวมทั้งจำต้องกระทำขึ้นบัญชีเพื่อพิสูจน์สิทธิ์ก่อน

แนวนโยบายปัจจุบันนี้ของการมอบเงินอุดหนุนมิได้เป็นแบบถ้วนหน้า คือว่า อันที่จริงแล้วในปริมาณเด็กราวๆ 4 ล้านกว่าคน ตามเกณฑ์ของรัฐบาลเป็น 0-6 ปี ในกลุ่มนี้ยังได้เงินเพียงแค่โดยประมาณ 2 ล้านกว่าผู้ที่มีการจดทะเบียน ภายใต้ข้อจำกัดที่รัฐบาลกำหนดไว้ว่า เป็นกรุ๊ปบอบบางที่รายได้ไม่ถึงหนึ่งแสนบาท อยู่ในครอบครัวที่อนาถา ซึ่งมันเป็นการเลือกปฏิบัติไหมเที่ยงธรรม” ณัฐวุฒิ บัวผุดผู้แทนราษฎร พรรคก้าวหน้า ชี้

การสำรวจของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาเมืองไทย (Thailand Development Research Institute หรือ TDRI) พบว่า ใน พุทธศักราช2560 มีเด็กยากจนที่ตกหล่นจากการได้รับเงินสมทบสูงถึง 30% เนื่องจากว่าปัญหาของวิธีการคัดเลือกกรอง ข้อแม้แล้วก็แนวทางการสมัครสมาชิกที่เป็นปัญหา รวมถึงปัญหาเรื่องการจัดแจงของภาครัฐ โดยเดโชรัต สุขเกิด อดีตกาลคุณครูประจำสาขาวิชาเศรษฐวิทยาเกษตรแล้วก็ทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คิดว่า แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องไม่ถูกที่คนกรุ๊ปหนึ่งจะมั่นใจว่าการมอบเงินแบบพุ่งเป้าเป็นการมัธยัสถ์ทรัพยากร แม้กระนั้นข้อสรุปที่ออกมาไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวมา และก็การมอบเงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้าบางครั้งก็อาจจะเป็นการช่วยเหลือที่ดีมากกว่า

มันก็จะมีคนเป็นห่วงว่า แล้วผู้ที่เขารายได้ดีอยู่แล้ว เขาได้เงินไปอีก จะคืออะไร สำหรับผม มันก็มิได้เสียหาย ถ้าเกิดพวกเราให้กับเด็กทุกคน เนื่องจากว่าเด็กตัวเล็กๆเป็นช่วงๆสำคัญมากในการพัฒนาของเขา การที่พวกเรามอบเงินผลประโยชน์เด็กตัวเล็กๆ มันก็เป็นการช่วย โดยยิ่งไปกว่านั้นคนที่มีความจำกัดในเรื่องเศรษฐกิจเขาให้ความเห็น

เงินช่วยเหลือปริมาณ 600 บาท
จำนวน 600 บาท หากพวกเราคิดว่าไม่มากก็มิได้เยอะแยะ แต่ว่าในทางตรงกันข้าม หากพวกเราดูโดยเปรียบความแร้นแค้น เป็นเส้นที่เป็นตัววัดว่าใครกันแน่จะมีรายได้พอเพียงต่อการเลี้ยงชีวิตตามมาตรฐานอย่างน้อยไหม 600 บาทก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งอำนาจวาสนารัตชี้

รายงานของ TDRI บอกว่า เด็กที่ได้รับเงินสนับสนุนจะมีภาวการณ์โภชนาการที่ดีมากยิ่งกว่าเด็กที่มิได้รับเงิน ทั้งยังน้ำหนัก ความสูง หรือแม้กระทั่งโภชนาการของเด็กผู้อื่นในครอบครัว เหมือนกับการเข้าถึงบริการสุขภาพ ที่เด็กกรุ๊ปที่ได้รับเงินจะมีเงินค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางไปพบหมอ หรือเข้ารับการฉีดยาตามนัดหมายได้มากขึ้น นอกเหนือจากการที่จะช่วยเหลือเด็กตัวเล็กๆแล้ว เงินปริมาณนี้ยังช่วยสร้างเสริมหน้าที่สตรีในครอบครัวอีกด้วย โดยการได้รับเงินสมทบเสมอๆจะมีผลให้สตรีมีอำนาจสำหรับในการตกลงใจหัวข้อการใช้เงิน ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งรวมทั้งความยั่งยืนด้านจิตใจให้กับสตรี นอกเหนือจากนั้น การได้รับเงินบริจาคปริมาณนี้ จะช่วยทำให้แม่มีร่างกายแข็งแรงแล้วก็ได้โอกาสให้นมลูกเพิ่มมากขึ้น

ข่าวเด็ก

เงิน 600 บาท แน่ๆว่าหากเทียบกับอื่นๆมันน้อย แต่ว่าพวกเราก็รู้เรื่องเมืองว่าเงินไม่เยอะแยะ อย่างต่ำก็เรียกร้องให้ได้ถ้วนหน้าทุกคนและก็เด็กจะได้ไม่ตกหล่น เนื่องจากว่าถ้าหากพวกเราไปดูชีวิตของคนยากจน บางที่ยังจำเป็นต้องให้ลูกรับประทานนมข้น บางที่ไม่มีจริงๆให้ลูกดื่มน้ำข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ที่คนไม่มีงานทำมากยิ่งขึ้น คนขาดเงินรับประทาน ผู้เจ็บป่วยวัววิด-19 เด็กก็ป่วยไข้ แม่ก็เจ็บป่วย แล้วถ้าเกิดเงินที่ว่านี้มันไปถึงมือเด็กทุกคน มันก็จะไปช่วยครอบครัวของเขา ยิ่งคนยากจนมันยิ่งสำคัญกับเขา ด้วยเหตุว่าเขาไม่มีแม้กระทั้งข้าวจะรับประทาน ไม่มีแม้กระทั้งนมจะรับประทาน พวกเรามองเห็นเรื่องน่าเศร้าใจเสียใจเยอะไปหมด” สุนีกล่าว

อันที่จริงแล้วเงิน 600 บาท ก็ยังเป็นตัวเลขที่มีปัญหาอยู่” ณัฐวุฒิเสริม แม้กระนั้นเอาจำนวนนี้เป็นหลักเกณฑ์ก่อนก็ได้ ซึ่งรัฐบาลจะใช้เงินเพิ่มจาก 1.7 หมื่นล้านบาท อยู่ที่ 3 หมื่นล้าน เป็นว่าเงิน 3 หมื่นล้านนี้เป็นเพียงแค่ 1% ของงบประมาณตลอดปีของเมืองไทย แต่ว่ามันเป็นการลงทุนกับพลเมืองแทบ 10% ของประเทศ มันคุ้มเสียมากกว่าคุ้ม แล้วผมมีความรู้สึกว่ามันตอบปัญหาหลายข้อร่วมกัน

เด็กมือที่สั้นที่สุดในสังคม
เมืองคิดว่าเงินสนับสนุนเด็กตัวเล็กๆเป็นการให้การเกื้อหนุนกับบิดามารดาผู้ดูแลที่ยากจนข้นแค้น แม้กระนั้นเมืองมิได้เห็นว่านี่เป็นสิทธิ์ หรือหลักประกันขั้นต้นของทุกคนที่จ่ายภาษี ไม่ว่าจะเป็นภาษีทางตรงหรือทางอ้อม” ณัฐวุฒิเจาะจง

ปัญหาที่คือปัญหาใหญ่ที่สุด น่าจะเป็นสิ่งที่พวกเราเรียกว่า อุดมการณ์ในทางมุมมองที่มีต่อคำว่า ผลประโยชน์เป็นพวกเราบางทีก็อาจจะแบ่งคนออกเป็น 2 แบบก็ได้ แบบแรกมั่นใจว่า ผลประโยชน์ควรจะมีไว้ให้กับคนยากจนเพียงแค่นั้น แบบลำดับที่สองเป็นผลประโยชน์จะต้องมีในลักษณะที่เป็นถ้วนหน้า ซึ่งผมมีความคิดว่ารัฐบาลตั้งแต่สมัย คสช. จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ก็บากบั่นที่จะใช้อุดมการณ์ที่ว่า ผลประโยชน์จะต้องมีไว้ให้กับคนยากจนเพียงแค่นั้น เป็นคำว่า ช่วยเป็นจะต้องพุ่งเป้าไปพบคนยากจนให้ได้ และก็ช่วยกรุ๊ปนั้นให้พ้นจากความอดอยากอำนาจรัตให้ความคิดเห็น

หากแม้ปัญหาด้านเด็กตัวเล็กๆอดอยากตกหล่น มิได้รับเงินอุดหนุนที่พวกเขาควรจะได้ จะคือปัญหาที่หลายภาคส่วนด้วยกันสะท้อนและก็เรียกร้องให้รัฐบาลได้รับรู้เพื่อรีบปรับปรุง แม้กระนั้นก็ยังไม่มีท่าทางสำหรับการตอบรับหรือจะก่อให้ผลประโยชน์ของเด็กตัวเล็กๆดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เปลี่ยนเป็นผลประโยชน์ถ้วนหน้าได้อย่างแท้จริง ซึ่งสุนี ซึ่งดำเนินการทางด้านนี้ก็บอกว่า ปัญหานี้เป็น ความไม่จริงใจของอีกทั้งรัฐบาลรวมทั้งการโกงในเชิงแนวนโยบายการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง สอดคล้องกับณัฐวุฒิ ที่บอกว่า มีหลายพรรคการเมืองที่เสนอหลักสำคัญเรื่องเงินสมทบเด็กเป็นแนวนโยบายสำหรับการเดินสายหาเสียง แม้กระนั้นสุดท้าย พรรคการเมืองที่เสนอหลักการนี้ และก็ได้โอกาสได้เป็นรัฐบาลก็ยังไม่ประพฤติตามที่ได้ให้คำปฏิญาณเอาไว้ เนื่องจากว่าการจัดลำดับจุดสำคัญในทางการบ้านการเมือง ซึ่งสามัญชนที่เป็นฐานคะแนนที่มีสิทธิ์ลงคะแนนรวมทั้งอายุเกิน 18 ปี ย่อมมีความหมายมากยิ่งกว่าการลงทุนกับเด็กตัวเล็กๆ ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว

จะต้องบอกว่าไม่จริงใจมากยิ่งกว่าอันอื่นเลย มันขาดเหตุผลเลย พวกเราก็บากบั่นถามว่าเพราะเหตุใดก็เลยไม่ให้ ในเมื่อสังคมไทยดีขึ้นมากระทั่งมีผลประโยชน์รากฐานทุกกลุ่มวัยแล้ว เพราะเหตุใดก็เลยมีช่องโหว่อยู่เพียงแค่เด็กตัวเล็กๆ ซึ่งเป็นตอนชีวิตที่สำคัญมากของเขา

ทั้งๆที่ทราบว่าขั้นตอนการคัดเลือกกรองมีเด็กตกหล่น เขาทราบแม้กระนั้นไม่ยินยอมแก้ ชีวิตของเด็กก็เลยถูกทิ้งขว้างแบบห่วยแตก แล้วยิ่งในขณะนี้เหตุการณ์วัววิด-19 บิดามารดาผู้ดูแลไม่มีงานทำ ผู้ที่เคยมีรายได้แสนหนึ่ง วันนี้เขาไม่มีแล้ว บางบุคคลเป็นศูนย์ รัฐบาลก็รู้อยู่แก่ใจ ลำบากกันมากมาย ยิ่งจะต้องรีบแนวนโยบายที่ตรงนี้ เป็นเงิน 600 บาทต่อเดือนถึงมือเด็ก 4.2 ล้านคนโดยทันที แต่ว่ามันก็ไม่กำเนิด มันเป็นความปัดความรับผิดชอบ เป็นความไม่จริงใจ เป็นการโกหกหลอกลวงที่ทำมาสองสามปีแล้ว ซึ่งควรจะเลิกได้แล้ว” สุนีชี้

เรื่องของเด็กตัวเล็กๆเป็นเรื่องของทุกคน
การคิดในเชิงอุดมการณ์ที่ว่า ผลประโยชน์จะต้องจัดให้คนยากจนเพียงแค่นั้น สำหรับผมมันไม่ผิดนะ หากว่าผมจะมิได้คิดแบบงั้นก็ตาม แม้กระนั้นผมมีความคิดว่าสิ่งที่เขาพลาดเป็นการไม่ตอบว่าเขาจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร โน่นคือปัญหาที่พวกเราจำต้องจักจี้ถาม เพราะเหตุว่าเขามั่นใจว่าควรให้คนยากจน แล้ว 30% ที่ตกหล่นและก็เป็นคนยากจน ซึ่งที่ตรงนี้มันมองไม่เห็นกระจ่างแจ้ง ก็เสมือนบัตรผลประโยชน์ที่เมือง คนมากยิ่งกว่าครึ่งเดียวของคนยากจนก็ยังมิได้รับบัตรผลประโยชน์ที่เมือง แล้วก็ผมก็มองไม่เห็นความอุตสาหะที่แจ่มกระจ่างสำหรับการที่จะทำให้อัตราการตกตกนี้มันต่ำลง รัฐบาลก็คงจะมองเห็นจุดสำคัญของเด็กในระดับหนึ่ง แต่ว่ามันมีอะไรไปบังตาบังหัวใจเขา มันก็คือตัวอุดมการณ์ รวมทั้งความเพียรพยายามที่มาพอที่จะเข้าถึงเด็กทุกคนให้ได้อำนาจวาสนารัตกล่าว

เวลาที่ณัฐวุฒิมั่นใจว่า เมืองไทยได้ไปสู่ความเคลื่อนไหวสู่การมี ผลประโยชน์ถ้วนหน้าแล้ว แต่ว่าภาคประชาชนสังคม พสกนิกร นักการเมือง รวมทั้งสื่อมวลชนจะต้องช่วยเหลือกันเสนอคำถามรวมทั้งบีบคั้นให้มีการเปลี่ยนในเชิงการปรับแต่งข้อบังคับ

ผมมิได้กล่าวว่าเงินเป็นคำตอบทุกสิ่งทุกอย่าง ผมรู้สึกว่าหัวข้อการดูแลของครอบครัวเป็นคำตอบมากยิ่งกว่า แต่ว่าเงินก็ยังเป็นอย่างน้อยที่เป็นประกันที่เด็กควรจะได้รับอยู่ดี” ณัฐวุฒิกล่าว

ทางด้านสุนีและก็โครงข่ายเกื้อหนุนแผนการผลประโยชน์เงินสนับสนุนเด็กตัวเล็กๆแบบถ้วนหน้า ก็มีข้อเสนอแนะ 3 ข้อถึงรัฐบาล อย่างเช่น รีบมอบเงินเด็กตัวเล็กๆถ้วนหน้า หาวัคซีนให้ผู้มีหน้าที่คอยดูแลเด็กเล็ก และก็แนวนโยบายพิเศษช่วยเหลือเหตุการณ์เด็กตัวเล็กๆ ที่ทวีความร้ายแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในตอนการระบาดของวัววิด-19

หัวข้อการดูแลเด็กไม่ใช่ประเด็นการให้การเกื้อหนุน ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ที่ว่าให้เท่านี้ก็พอเพียง พวกเราช่วยเหลือเด็กปริมาณเท่านี้แล้ว แม้กระนั้นเรื่องเด็กคือเรื่องของเด็กทุกคนจริงๆคือเรื่องของประเทศในระยะยาว พวกเราเรียกร้องว่าคำตอบพื้นฐานเป็นเงินสมทบเด็กตัวเล็กๆแบบถ้วนหน้าก่อน แล้วต่อจากนั้น มาดูกันว่าพวกเราจะช่วยเหลือดูแลเด็กที่ประสบพบปัญหามากยิ่งกว่านั้น หรือมีสภาวะต่างๆในลักษณะพิเศษยังไง” ณัฐวุฒิกล่าวตบท้าย

Share Article: